Sunday, June 13, 2004

Electronic-Ink

วันนี้มาว่ากันเรื่อง Technology การแสดงผลของ LIBRIè
Sony ใช้ Electronic-Ink Technology ที่พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท E INK สำหรับหลักการทางเทคนิคนั้น สามารถสรุปคร่าวๆได้จากข้อมูลที่อยู่บนเว็บ E INK

โดยอธิบายโดยตรงจากรูปเลยจะง่ายกว่า [Click ที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่]



ส่วนประกอบหลักของ e-Ink ก็คือ เม็ดขนาดเล็กๆที่เค้าเรียกว่า microcapsule ซึ่งมีขนาดพอๆกับเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมคน วีธีการก็เอาเม็ดสีดำซึ่งมีประจุลบ และ เม็ดสีขาวซึ่งมีประจุบวก ไปใส่ในของเหลวที่โปร่งใส เมื่อใส่สนามไฟฟ้าลบ (ขั้วบวกอยู่ที่แผ่นตัวนำข้างล่าง[bottom electrode])ลงไป ก็จะทำให้เม็ดสีขาวลอยขึ้นมาจากแผ่นตัวนำเพราะเป็นประจุบวก ส่วนเม็ดสีดำก็จะจมลงไปอยู่ใต้เม็ดสีขาว ทำให้บริเวณนั้นปรากฏเป็นสีขาว ถ้าใส่สนามไฟฟ้าบวกลงไปก็จะเกิดผลตรงกันข้าม คือ บริเวณที่ใส่สนามไฟฟ้าจะกลายเป็นสีขาว

การที่จะใช้ e-Ink มาทำเป็นจอแสดงผลนั้น ทำได้โดยพิมพ์หมึกนี้ลงบนแผ่นวงจรไฟฟ้าบางๆ ซึ่งแผงวงจรนี้จะเป็นตัวสร้างให้เกิดจุดบนจอแสดงผล โดยจะมีวงจรต่างหาก(ไม่ได้อยู่บนแผ่นบางๆนี้)ในการควบคุมการแสดงผล เนื่องจากหมึกนี้สามารถใช้เทคนิคการพิมพ์แบบ screen ทั่วๆไปได้ มันจึงสามารถพิมพ์ลงไปได้บนพื่นผิวแทบทุกชนิด รวมทั้งแก้ว, พลาสติก , ผ้า หรือแม้กระทั้งกระดาษ
แต่คงก็ต้องทำแผงวงจรไฟฟ้าไปวางอยู่บนพื้นผิวพวกนี้ให้ได้ด้วย จึงจะใช้งานเป็นจอแสดงผลได้จริงๆ

ดู Technology อันนี้แล้ว น่าสนใจมาก ต่อไปก็ไม่ต้องแบกหนังสือหนักๆใหญ่ๆ เวลาต้องการเอาไปอ่านนอกสถานที่อีกแล้ว ในห้องสมุดก็มีแต่ eBook reader วางไว้ ให้หยิบไป ใครอยากอ่านอะไรก็เลือกๆเอาจาก list ในหน้าจอได้เลย.. วู้.. ดีจัง :D

Friday, June 11, 2004

eBook reader

ช่วงนี้ทาง Sony ที่ญี่ปุ่นกำลังรุกหนักตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ด้าน IT ไม่ว่าจะเป็น Computer VIAO รุ่นใหม่ๆ ที่เน้นทางด้าน Multimedia หรือว่า เครื่องเล่น MP3 ที่มี disk ใหญ่ถึง 20GB แต่สิ่งที่เราติดใจที่สุดคือ eBook reader ที่มีชื่อเรียกว่า LIBRIè (ลิ บุ ริ เอะ)

เห็นโฆษณาตามวารสารต่างๆมาสักพักแล้ว วันก่อนเห็นของจริงครั้งแรกในรถไฟ มีคุณป้าคนนึงยืนใช้งานอยู่ ... สุดยอด!!! จอชัดมากๆๆๆ เหมือนกระดาษจริงๆเลย พื้นจอสีขาว ตัวหนังสือสีดำ ขนาดของเครื่องก็ประมาณสมุดโน้ตเล็กๆเล่มนึงเอง น่าสนใจมากๆ

วันนี้ลองหาข้อมูลดู สิ่งแรกที่อยากรู้ก็คือราคา... เห็นเค้าว่าราคาประมาณ 4 หมื่นกว่าเยน (ประมาณ15000บาท) ... วู้...แพงจัง ถ้าสัก 2 หมื่นเยน ว่าจะลองสอยมาใช้งานซะหน่อย..

การใช้งาน:
เท่าที่อ่านจากเว็บของ Sony ( http://www.sony.jp/products/Consumer/LIBRIE/ ) หนังสือสำหรับอ่านด้วยเครื่องนี้ ต้อง.ยืม.เอาจากเว็บของ Time Book Town ( http://www.timebooktown.jp/Service/index.asp ) เท่านั้น โดยต้องเสียค่าสมาชิกเดือนละ 210 เยน แล้วทีนี้ถ้าจะยืมหนังสือเรื่องไหนก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกต่างหาก โดยที่ยืมเล่มละ 315-525 เยน แล้วแต่เรื่อง และก็มีคลับให้สมัครโดยจะยืมได้ราคาถูกลง มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายจุกจิกมากๆเลย http://www.timebooktown.jp/Service/guide_fee.asp
ดูจากวิธีการใช้งานที่ต้องไปยืมหนังสือแล้ว รู้สึกไม่คุ้นกับคนที่ซื้อหนังสืออ่านอย่างเราๆ ไม่รู้ว่า Business model แบบนี้จะไปรอดหรือเปล่า อีกอย่างเท่าที่ค้นๆดูรู้สึกว่าเราไม่สามารถสร้างหนังสือได้เอง ต้องไปยืมจากเว็บข้างบนเท่านั้น อย่างงี้ก็ไม่สนุกอีก บางทีเราอยากจะเก็บข้อมูลจากเว็บไปนั่งอ่านเวลาว่างๆก็ทำไม่ได้ :(

รายละเอียดทาง Technique เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาเขียนต่อ

รูปของเครื่อง LIBRIè

Sunday, June 06, 2004

ตั้งใจถ่ายรูป

วันนี้ฝนตกหนักตั้งแต่เช้า เลยไม่ได้ออกไปไหน ลองเอากล่องกระดาษมาตัดแต่งเป็น Lightbox สำหรับถ่ายรูป แล้วขนเอานาฬิกาที่มีมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เผื่อเวลาขายไปแล้วจะได้มีรูปไว้ดูต่างหน้า :)

รูปที่แปะอยู่นี้เป็นรูปที่ดีที่สุดที่ถ่ายได้ โดยใช้ กล้อง Canon G2 และก็ใช้ไฟสำหรับอ่านหนังสือเป็นแหล่งกำเนิดแสง เห็นได้ชัดว่าแสงไม่พอเลยต้องเปิดหน้ากล้องกว้างสุด ผลจากการเปิดหน้ากล้องกว้างก็คือรูปที่ได้จะมี Noise มากอย่างเห็นได้ชัดเลย

Wednesday, June 02, 2004

มีของมาส่ง

เมื่อวานตอนเย็น ได้เจ้านี่มาจาก US โดนภาษีไป 2700 yen และก็ค่าอะไรอีกไม่รู้อีกพันกว่า... งง สงสัยคนส่งเค้าส่งมาดีเกินไป ใช้ของบริษัทอะไรก็ไม่รู้ ทั้งๆที่จริงแล้วส่งแบบ EMS จะถูกและก็เร็วกว่าอีก Lemania เรือนนี้มีอายุประมาณ 50 ปีได้แล้ว เก็บๆไว้เผื่อวันหน้ามีเยอะๆ จะได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ซะเลย